โหราเอก

ยินดีต้อนรับ กัลยาณมิตรทุกท่าน

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

รู้จัก (Horaake) กฤษณะพงศ์ กำลังเอก




ด้วยความนอบน้อม อย่างดุษณียภาพ ขอบพระคุณบรรดาเหล่ากัลยาณมิตร ที่เข้ามารู้จักกับ โหราเอก ซึ่งเป็นนามปากกาของ กฤษณะพงศ์ กำลังเอก มีคนเคยพูดกับข้าพเจ้าเสมอว่า ไม่มีเหตุบังเอิญเกิดขึ้นในโลก !ซึ่ง ข้าพเจ้าก็เห็นคล้อยตามกับเหตุผลดังกล่าวเช่นกัน ข้าพเจ้าเชื่อว่าทุกท่านที่ได้เข้ามาทำความรู้จักกันและอาจจะมีโอกาสทำความ ดีร่วมกันย่อมมีที่มาและการเชื่อมโยงมาจากอดีตทั้งสิ้น

อาจจะมีหลาย คนคุ้นเคยกับนามสกุล กำลังเอก ของข้าพเจ้าและมักถามถึงความสัมพันธ์ ระหว่างข้าพเจ้ากับท่าน พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก อดีตผู้บัญชาการทหารบกและทหารสูงสุด ซึ่งก็เข้าใจกันไม่ผิดหรอก ข้าพเจ้าเป็นหนึ่งคนในตระกูลของท่านโดยมีศักดิ์เป็นหลานชาย เนื่องจากคุณพ่อของข้าพเจ้า (เลิศชัย กำลังเอก) เป็นน้องชายแท้ๆของท่าน พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก

ชีวิตในวัยเด็กของข้าพเจ้าก็ไม่ค่อยเหมือนกับ เด็กทั่วไปนัก เนื่องจากคุณพ่อกับคุณแม่ของข้าพเจ้าไม่ได้อยู่ด้วยกันหย่าขาดจากกันตั้งแต่ ข้าพเจ้ายังเด็ก ดังนั้นชีวิตข้าพเจ้าจึงไม่ต่างจากเด็กคนหนึ่งที่ขาดซึ่งความรักความอบอุ่น ที่สมบูรณ์แบบจากบิดามารดา แต่บนท่ามกลางความเหน็บหนาวจากการขาดความรักนั้น ข้าพเจ้าก็ได้พบเส้นทางแห่งสัจจะ นั่นก็คือ การได้เข้ามาใกล้กับร่มโพธิ์ร่มไทรของพระพุทธศาสนา ข้าพเจ้าเริ่มสนใจหลักพระพุทธศาสนา โดยการเริ่มสวดมนต์ นั่งสมาธิมาตั้งแต่ในวัยเยาวน์ ความเหน็บหนาวทั้งปวงความอ้างว้างทั้งหลายก็ถูกขจัดเกือบหมดไปสิ้นด้วยแสง สว่างในธรรม

เมื่อผจญซึ่งฝันร้าย


ตอนเด็กคุณพ่อคุณแม่ได้นำมาฝากคุณยายคุณตาให้เลี้ยงดูอบรมสั่งสอน แม้ว่าคุณตาคุณยายจะให้ความรักและความอบอุ่นดีขนาดไหนแต่ธรรมชาติที่ไขว่คว้าหาพ่อแม่ของตนเองก็เป็นสิ่งเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรู้สึกเหล่านี้ได้เลย ขณะนั้นข้าพเจ้ารู้สึกเหน็บหนาว และรู้สึกโดดเดี่ยว จนทำให้สุขภาพข้าพเจ้าไม่แข็งแรง อย่างที่เขาบอกว่าใจป่วยกายก็ป่วย จำได้ว่าทุกๆคืนของข้าพเจ้านั้นไม่เคยได้นอนหลับฝันดีเลยแม้แต่คืนเดียว ฝันถึงแต่ภูตผีปีศาจอยู่ตลอด เหมือนดั่งดวงวิญาณเหล่านั้นมาขัดขวางการมาเกิดในภพนี้ ข้าพเจ้าเองก็เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น ตอนเกิดมาข้าพเจ้าเชื่อว่าเรามาจากที่แห่งใดแห่งหนึ่ง แต่เชื่อข้าพเจ้าเชื่อว่าน่าจะเป็นที่ๆดีแน่นอน เนื่องจากจิตสำนึกได้บอกข้าพเจ้าเสมอมา

ข้าพเจ้าเป็นคนหนึ่งคนที่มีสัญลักษณ์เป็นปานแดงที่เป็นอักษรจีน อ่านออกเสียงได้ว่า ไช้ มาตั้งแต่ตอนเกิด ซึ่งคุณแม่ได้บันทึกไว้ ในทางนักวิจัยด้านการระลึกชาติ กล่าวว่าสัญลักษณ์ที่ติดตัวมาเรียกกันว่า birth mark บางคนเป็นปานในที่ต่างๆ แต่ของข้าพเจ้าเป็นตัวอักษรจีนที่เป็นปาน สามารถอ่านได้ว่าชื่ออะไร ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจสำหรับคุณแม่ข้าพเจ้า แต่ไม่ว่้าจะอย่างไรก็ตามสิ่งที่ติดตัวมาและจิตใจที่คิดดีย่อมเพียงพอให้ข้าพเจ้าพอใจที่สุด แม้ว่าข้าพเจ้าจะดูมีปมด้อยและเหมือนโชคร้ายที่ครอบครัวไม่อบอุ่น แต่บนความโชคร้ายแต่ก็เป็นโชคดีที่ข้าพเจ้าได้เกิดมาสู่วงศ์ตระกูลที่มีชื่อเสียง แม้จะเป็นอดีตแต่ความดีที่บุคคลในวงศ์ตระกูลทำไว้ก็ยังมีคนจำได้อยู่เสมอ อันนี้ก้เหมือนเป็นชนกกรรมที่ดีของข้าพเจ้า

ธรรมโอสถ

จำได้ว่าในสมัยตอนเด็กมีโรคประจำตัวหลายอย่างรุมเร้า ทำให้แทบทุกคืนเกิดนิมิตร้าย นอนไม่เป็นสุขร่างกายอ่อนแอ  แต่ด้วยความใกล้ชิดกับวัดจึงได้เรียนรู้หลักการปฏิบัติธรรมมาพอสมควรจากพระที่มารับบาตรประจำที่บ้าน มีโอกาสได้ไปฝึกฝนการเป็นลูกศิษย์พระเดินถือปิ่นโตและทำสาธารณประโยชน์ในช่วงปิดเทอม  การปฏิบัติธรรมโดยการนั่งสมาธิอย่างง่ายๆมีอานิสงส์ให้การเรียนและสุขภาพร่างกายของข้าพเจ้าดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์  จากที่เคยต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลศิริราชเป็นประจำก็ห่างเว้นไปจนสุดท้ายก็หายขาดจากโรคต่างๆแม้กระทั่งนิมิตร้ายทั้งหลาย  ธรรมะและกรรมฐานจึงเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าปฏิบัติอยู่ไม่ขาดหาย

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ24 กันยายน 2552 เวลา 05:01

    สวัสดีค่ะคุณเอก เพิ่งดูละครชีวิตจริง 84000 ตอนเบิกบุญ ที่เป็นเรื่องของคุณเอก คือช่วงนี้ดิฉันมีความสนใจธรรมมะอยู่มาก แต่ดูเหมือนเป็นเรื่องที่ทำให้เราดูแปลกจากคนอื่นไป อยากศึกษาให้มาก และสามารถปฏิบัติได้อย่างคุณเอก ดิฉันขอเป็นกำลังใจให้เผยแพร่งานเกี่ยวกับธรรมมะอย่างถูกต้อง ออกมาเรื่อย ๆ นะคะ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณทุกๆ กำลังใจนะครับ ขอร่วมเป็นกัลยาณมิตรธรรมด้วยกัน ครับ

    ตอบลบ